วันศุกร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เข้าใจนักเขียนที่ดองงานก็ตอนที่เจอกับตัวนี่แหละ!!

ก่อนอื่นบอกเลยนี่ไม่ใช่บทความมีสาระอะไร แค่รู้สึกว่าอยากจะเขียนมันออกมาเฉยๆ ไม่มีอะไรมากค่ะ 555+

เมื่อก่อนสมัยที่ยังเขียนนิยายอัพขึ้นเว็บเด็กดีอย่างสม่ำเสมอ จำได้ว่ากำหนดไว้ว่าจะอัพทุกวันเสาร์ เราก็สามารถเขียนให้ทันกำหนดได้ทุกอาทิตย์ทั้งๆที่เรียนก็หนัก การบ้านก็เยอะ รับถักตุ๊กตาโครเชต์ตามออเดอร์อีก แถมอาทิตย์ไหนที่หัวแล่นๆ จินตนาการบรรเจิด เขียนตุนได้ได้ทีละ2-3ตอนเลยทีเดียว แล้วเวลายังเหลือพอให้ไปสังสรรค์กระชับมิตรภาพกับเพื่อนๆ รวมถึงอ่านนิยายฝีมือนักเขียนคนอื่นๆอีกต่างหาก ช่วงนั้นเวลาเจอนิยายเรื่องไหนสนุกๆแล้วนักเขียนเขาดอง หรือนานๆจะอัพสักที เราก็มักจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่าเราก็ยุ่งขนาดนี้เรายังอัพได้สม่ำเสมอเลย ทำไมเขาทำกันไม่ได้หว่า หัวไม่แล่น? มันไม่แล่นขนาดนั้นเลยเหรอ?

แต่พอขึ้นปี3 การเรียนหนักยิ่งขึ้น การบ้าน รายงานเยอะเหมือนเดิม แถมมีสิ่งที่เรียกว่าโปรเจ็คเข้ามารวมด้วย ยิ่งกว่านั้นอาจารย์ยังคาดหวังให้โปรเจคนี้ยื่นส่งเป็นเปเปอร์ทางวิชาการอีก เครียดสิคะพี่น้อง เพื่อนร่วมชั้นปีที่ว่างๆดูหนังฟังเพลง เรื่อยๆไปวันๆยังแทบกระอักเลือด แล้วเราล่ะนิยายก็ต้องแต่ง ตุ๊กตาก็ต้องถัก(ออเดอร์peakมากช่วงนั้น คิวนี่ยาวไป3-4เดือนเลย) เครียดเลยค่ะ เครียดมาก ช่วงแรกๆยังดีที่มีตอนที่แต่งแล้วตุนเอาไว้ ยังพอจัดการเวลาได้ แต่งอาทิตย์เว้นอาทิตย์ก็ยังอัพได้ตามที่สัญญาไว้

พอเวลาผ่านไปตอนที่ตุนไว้เริ่มหมด เส้นตายโปรเจคก็ใกล้เข้ามา ตอนนั้นคือสัญญาว่าจะอัพวันเสาร์ ก็แต่งมันเช้าวันเสาร์แหละค่ะ จากที่เคยเขียนลงสมุดก่อน ก็แต่งสดพิมพ์สดลงคอมเลย อ่านตอนเช็คคำผิด 1 รอบแล้วก็อัพเลยค่ะ รู้สึกว่าก็ยังไหวเราทำได้ เราบริหารเวลาได้ เหนื่อยแค่นี้เอง

แต่พอฤดูสอบใกล้เข้ามา มันเท่ากับว่าเส้นตายโปรเจ็คก็ใกล้เข้ามาด้วย จำได้เลยค่ะว่าตอนนั้นมันเหนื่อยมาก เรียนเช้า(ถักออเดอร์ใต้โต๊ะ พร้อมจดโน๊ตเรียนตรงส่วนสำคัญ) เที่ยงกินข้าวแว่บไปทำโปรเจค บ่ายเรียนต่อ(ก็ยังถักออเดอร์ต่อไป) เย็นโปรเจคกันถึง 3ทุ่มครึ่ง กลับหอ(หอในปิดประตู4ทุ่ม) อาบน้ำอะไรเสร็จ เพื่อนที่เป็นเมทกันเขาก็ผ่อนคลายนอนดูหนังฟังเพลง บางคนก็อ่านหนังสือสอบ เราน่ะเหรอ กางชีทเรียนที่จะอ่านสอบ มือก็ถักตุ๊กตาไป ตาก็อ่านชีทไป มือพักไปไฮไลท์ส่วนสำคัญ แล้วก็ถักตุ๊กตาต่อ คือชีวิตเป็น Multitask จริงๆ ทำหลายๆอย่างพร้อมๆกัน

เพื่อนยังถามเลยว่า "นี่ยังแต่งอยู่อีกเหรอนิยายเนี่ย นึกว่าเลิกไปแล้วซะอีก" และ "ตุ๊กตามันสำคัญขนาดนั้นเลยเหรอจะสอบแล้วพักอ่านหนังสือก่อนไม่ดีกว่าเหรอ หลังสอบก็พรีเซ็นต์โปรเจ็คต่ออีก" คือตุ๊กตานี่เป็นออเดอร์ที่เขาต่อคิวยาวรอมาหลายเดือน อาทิตย์หน้าเขาจะเอาไปให้วันเกิดแฟนแล้ว เราก็ไม่อยากเสียคำพูดที่ว่าจะทำให้เสร็จก่อนถึงวันเกิด เรื่องนิยายอีก คนอ่าน คนติดตามก็เยอะอยู่ เพื่อนกันที่่อ่านนิยายเรายังถามเลยว่า ตอนต่อไปเสร็จรึยัง

วันเสาร์อีกแล้ว ดีที่เพื่อนร่วมกลุ่มโปรเจคชอบนัดสายๆ เราก็ตื่นเช้าๆมานั่งแต่งนิยายอัพตอนต่อไป ชีวิตวนเวียนประมาณนี้ได้สักพัก เริ่มไม่ไหวค่ะ เหนื่อย เพลีย หัวตื้อไปหมด งดรับออเดอร์ตุ๊กตา เรียกว่าแทบจะปิดร้านเคลียร์คิวอย่างเดียวเลย จะขึ้นปี4แล้วต้องหาที่ฝึกงานอีก นิยายเริ่มอัพอาทิตย์เว้นอาทิตย์ แต่งมาจนถึงโครงเรื่องที่เคยเอาวางไว้ตอนเริ่มเขียนใหม่ๆ หัวไม่แล่นมันเป็นแบบนี้นี่เอง ก่อนหน้านี้ยังพอเขียนไปเรื่อยๆให้ลงตามโครงที่วางไว้ แต่พอโครงเรื่องมันหมด มันเหมือนเดินมาเจอทางตันเลยค่ะ ให้เรื่องไปยังไงต่อดี ไปแบบนี้ปมที่วางไว้ก็จะยิ่งผูก เดี๋ยวแก้ไม่ได้ ไปทางนี้ก็ทื่อเกินไปเดี๋ยวไม่สนุก สรุปคือ ตัน!!

ตันชนิดที่ว่ายอมลบนิยายสองหน้าที่เขียนขึ้นมาทิ้งเพราะรู้สึกว่าอ่านแล้วไม่สนุก ก็เลยไปโพสบอกขอเลื่อนการอัพออกไปหลังโปรเจคเสร็จเรียบร้อย เพราะใจเราจริงๆก็อยากให้นิยายออกมาดี ไม่ใช่แค่สักแต่ว่าเขียนๆไปให้จบตอน

เราก็ตั้งใจว่าจบโปรเจ็คนี่แหละนิยายเราได้อัพต่อแน่! ยังไงก็จะไม่ดองเด็ดขาด! ตั้งปณิธานไว้ในใจ พอเอาเข้าจริง งานมัน intense ขนาดว่า ปิดเทอมใหญ่ยังไม่ได้กลับบ้านเลยจ้า นั่งทำโปรเจค แก้แล้วแก้อีก ร่างเปเปอร์ทั้งภาษาไทยและอังกฤษ แถมงานตกใส่หนักเมื่อเป็นคนที่เก่งอังกฤษที่สุดในกลุ่ม


แม่เจ้าสรุปปิดเทอมใหญ่แต่ได้กลับบ้านแค่ 1อาทิตย์เท่านั้น เปเปอร์ได้ตีพิมพ์จริง แต่ 1อาทิตย์ที่อยู่บ้านพร้อมกับการบ้านใหม่ โปรเจ็คปี 4 ทำเรื่องอะไรดี ต่อยอดของเก่า? ทำอันใหม่? แต่นี่แน่ๆต้องส่งเปเปอร์อีกใบ!

หัวข้อโปรเจคยังคิดกันไม่ตก พับเก็บไว้ไปฝึกงาน จับพลัดจับพลูได้ไปฝึกที่ญี่ปุ่นหนึ่งเดือน ดีใจอยู่หรอกได้ไปนอก แต่เฮ้ยไม่ได้เป็นสายเขียนโปรแกรมค่ะ อ่านสิคะ เปิดtext book ฝึกเขียนส่งงานอาจารย์ทางเน็ตทุกวัน ชีวิตมีอะไรเข้ามาเยอะมากมายจนลืมเรื่องนิยายไปช่วงนึงเลย

และพอไม่ได้จับนิยายนานๆ มันก็ตื้อและตัน ชีวิตเริ่มชินกับการไม่ต้องแต่งนิยาย ไม่ต้องถักตุ๊กตา แค่เรียนอย่างเดียว เออ มันก็ว่างดีแฮะ มีเวลาทำโน่นทำนี่เยอะขึ้น แต่ก็นะคะ รู้สึกว่างเปล่า ว่างเกินไป

ทุกวันนี้ ก็เริ่มกลับมารับออเดอร์ถักบ้าง นิยายก็แล้วแต่จะนึกอยากเขียน ปีสองปีมานี้ส่วนมากแค่เขียนลงสมุดไว้ไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนอย่างเมื่อก่อน

2558 ปีใหม่แล้วก็คิดนะว่าควรปรับปรุงตัวใหม่ ให้อะไรๆมันดีขึ้น กลับมาอ่านไซน์ กับ มาสะใหม่ตั้งแต่แรก (รู้สึกเหมือนไม่ได้เขียนเอง ฮ่าๆ) แล้วก็ตั้งใจว่าจะเขียนต่อ แต่คงเป็นไปอย่างค่อยๆ แต่ก็ตั้งใจว่าจะอัพให้จบ ไม่รู้จะสำเร็วใจปีนี้ได้มั้ย แต่จะพยายามเพื่อตัวเอง และเพื่อนักอ่านที่ยังตามอยู่นะคะ

Have_a_hope

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น